วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

การเมือง






































กก.สมานฉันท์ตีกลับ4ข้อเสนออนุปฏิรูปการเมืองฯ

วันที่(2 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมีนายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว. นนทบุรี ประธานคณะกรรมการฯ เป็นประธานการประชุม พิจารณาข้อเสนอของคณะอนุกรรมการปฏิรูปการเมือง โดยนายประเสริฐ ชิตพงศ์ ส.ว.สงขลา ประธานคณะอนุกรรมการ รายงานผลการศึกษา4 ข้อ คือ 1.โครงสร้างทางสังคมการเมืองและเศรษฐกิจตามรัฐธรรมนูญ 2.วัฒนธรรมทางการเมืองที่สอดคล้องกับระบบเศรษฐกิจ สังคมไทย 3.หลักกฎหมายที่เอื้อต่อการพัฒนาให้สังคมเป็นนิติรัฐ 4.บทบาททางการเมืองของภาคส่วนต่างๆที่สอดคล้องกับการส่งเสริมประชาธิปไตย โดยมีแนวทางดำเนินการ 3 แนวทาง คือ1.ให้มีการศึกษาโครงสร้างรัฐธรรมนูญและกฎหมายในประเด็นที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่เป็นธรรม และอาจนำไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญบางมาตรา 2.ให้มีองค์กรรับผิดชอบด้านเผยแพร่ความรู้ประชาธิปไตย 3.ควรมีการตั้งสภาปฏิรูปการเมืองแห่งประเทศไทย และกรณีต้องแก้รัฐธรรมนูญก็ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้อาจแบ่งเป็นดำเนินการระยะสั้น 1 ปี ระยะกลาง 3 ปี และระยะยาว 5 ปี แล้วแต่ประเด็นและสาระที่ต้องแก้ไข โดยในระยะกลางและระยะยาวอาจเป็นการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
‘การปฏิรูปไม่ใช่มองแค่กฎหมายแต่ต้องปฏิรูปตัวบุคคลด้วย เพราะปัญหาความขัดแย้งเกิดจากตัวบุคคลทั้งสิ้น โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในแวดวงการเมือง และเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาใช้อำนาจทางการเมือง หากได้บุคคลที่ไม่มีคุณธรรม เล่นพรรคเล่นพวก การแก้ไขปัญหาจะเป็นไปได้ยาก’ นายประเสริฐ กล่าว
จากนั้นจึงเปิดให้กรรมการอภิปราย โดยส่วนใหญ่เป็นการเสนอรายละเอียดเพิ่มเติม อาทิ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กรรมการสัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการเมืองไทย บางองค์กรก็ทำให้ดีขึ้น แต่บางองค์กรทำให้สภาพการเมืองแย่ลง อย่าง กกต. มีข่าวอยู่บ่อยครั้งว่า เจ้าหน้าที่ภายในมีการทุจริตซื้อขายสำนวน หรือการตีความสำนวนของ กกต.บางครั้ง เช่น กรณีการแจกผ้าห่มในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ จ.สุราษฎร์ธานี จึงควรมีการตรวจสอบอำนาจของ กกต.ได้ และที่มาของกรรมการองค์กรอิสระก็ควรยึดโยงกับประชาชน
ด้าน พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา ประธานคณะอนุกรรมการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่น กล่าวว่า ข้อเสนอที่ให้ตั้งสภาปฏิรูป ยังไม่เห็นโครงสร้างที่ชัดเจน และไม่รู้ว่ามีอำนาจบังคับแค่ไหน จึงควรกำหนดระยะเวลาศึกษาและอำนาจให้ชัดเจน
ด้านนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ กล่าวถึงเรื่องอำนาจองค์กรอิสระ เป็นการให้อำนาจแบบไม่มีขอบเขต ลักษณะที่ทำไม่ได้แล้ว แต่ฉันจะใช้ เช่น กกต. 5 คน รับผิดชอบการเลือกตั้งทั่วประเทศ ตนอยากถามว่า กรรมการรู้อะไรแค่ไหนในแต่ละพื้นที่ และไปตั้ง กกต.จังหวัด กกต.เขตขึ้นมา หรือไปตั้งอนุกรรมการสอบสวน ไม่รู้ว่า เอามาจากไหน อยากฝากให้คณะอนุกรรมการฯ ไปสรุป โดยเฉพาะกรณีที่กกต.ปล่อยประกาศรับรองส.ส.และสอยภายหลังที่เกิดปัญหามาก
“นักการเมืองสมัยนี้ ผมอายเขาเพราะขายตัวกันเลยกลายเป็นแก๊งค์ พรรคหนึ่งไม่รู้มีกี่แก๊งค์ กี่ก๊วน ต่อรองกัน ไม่เคยคิดว่าบ้านเมืองจะกู้กันอย่างไร มีแต่เรื่องไม่พอใจกัน เดี๋ยวนี้หมอนวดยังจะอดตาย บ้านเมืองหากปล่อยอย่างนี้ จะเห็นโลงศพกันเร็วๆนี้” นายเสนาะ กล่าว และว่า เอกสิทธิ์ในการสังกัดพรรคก็มีปัญหาหากได้หัวหน้าดีก็ดีไป แต่ได้หัวหน้าเป็นโจรแล้วเป็นใหญ่เป็นโต ก็เอาตรงนี้ไปล็อคผู้แทนฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกรรมการอภิปรายนาน 3 ชั่วโมง ในที่สุด นายดิเรก สรุปว่า ให้คณะอนุกรรมการฯไปเพิ่มข้อเสนอให้ชัดเจน โดยกำหนดปัญหาในการปฏิรูปการเมืองให้ชัด และต้องบอกถึงวิธีการแก้ไขปัญหาว่าจะทำอย่างไร และรายงานคณะกรรมการสมานฉันท์อีกครั้ง ในวันที่ 3 มิ.ย.นี้ เวลา 09.30 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น